ขั้นตอนการรับเหมาตกแต่งภายในเริ่มต้นอย่างไร หลังทำแบบเสร็จแล้ว
- สรุปราคาหลังให้เสนอราคา
- ทำสัญญาตกแต่งภายใน
- เข้าเชคพื้นที่อย่างละเอียด
- เชค spec วัสดุต่างๆ สรุปให้ชัดเจน
- clear รายละเอียดชิ้นงานแต่ละชิ้น ให้ตรงตามแบบ
- Protect หน้างาน
- ตรวจเชคหน้างานก่อน ผลิตและเข้าติดตั้ง
- เริ่มผลิตชิ้นงานตามแบบที่สรุป อาจจะผลิตที่หน้างาน หรือ ผลิตที่โรงงาน
- report ความก้าวหน้า และการเบิกงวดงาน
- เข้าติดตั้งหน้างาน
- นัดตรวจ defect
- รับประกันผลงาน
ขั้นตอนการรับเหมาตกแต่งภายใน หลังแบบเสร็จแล้ว
หลังจากแบบตกแต่งภายในได้รับการอนุมัติแล้ว ขั้นตอนการทำงานของผู้รับเหมาตกแต่งภายในมีดังนี้:
1. สรุปราคาหลังเสนอราคา (Quotation Approval)
ตรวจสอบใบเสนอราคาให้ครบถ้วน ครอบคลุมทุกส่วนงาน
เปรียบเทียบราคาและคุณภาพวัสดุจากผู้รับเหมาหลายราย (ถ้ามี)
ตกลงราคาและเงื่อนไขการชำระเงิน (แบ่งงวดตามความคืบหน้า)
2. ทำสัญญาตกแต่งภายใน (Contract Signing)
สัญญาควรระบุ:
รายละเอียดงานและขอบเขต (Scope of Work)
วัสดุที่ใช้ (ยี่ห้อ, รุ่น, สเปค)
ระยะเวลาเริ่ม-สิ้นสุดงาน
เงื่อนไขการชำระเงินและเบิกจ่าย
การรับประกันงาน (Warranty)
บทลงโทษหากงานล่าช้าหรือไม่เป็นไปตามสัญญา
3. เข้าตรวจพื้นที่อย่างละเอียด (Site Survey & Preparation)
ตรวจสอบสภาพพื้นที่จริงก่อนเริ่มงาน (ขนาดห้อง, ระบบไฟฟ้า-ประปา, ผนัง)
แจ้งปัญหาที่อาจกระทบงาน เช่น ท่อน้ำรั่ว, ระบบไฟฟ้าไม่เพียงพอ
ทำความสะอาดและเคลียร์พื้นที่ให้พร้อมทำงาน
4. ตรวจสอบสเปควัสดุให้ชัดเจน (Material Specification Confirmation)
ยืนยันรายการวัสดุทั้งหมดกับลูกค้า เช่น
ชนิดไม้ (ลามิเนต, ไม้แท้, เอ็มดีเอฟ)
สีและพื้นผิว (สีทาบ้าน, มัน, ด้าน)
ฮาร์ดแวร์ (บานพับ, ลูกบิดประตู)
เก็บตัวอย่างวัสดุ (Material Sample) เพื่อเปรียบเทียบเวลาส่งมอบ
5. Clear รายละเอียดชิ้นงานแต่ละชิ้น (Work Item Clarification)
สรุปรายการชิ้นงานทั้งหมดให้ตรงตามแบบ เช่น
ตู้บิวท์อิน (Built-in Cabinet)
โต๊ะครัว, หิ้งโชว์
งานปูกระเบื้อง, งานทาสี
ยืนยันขนาด, รูปแบบ, และตำแหน่งการติดตั้ง
6. ปกป้องหน้างาน (Site Protection)
คลุมพื้นและเฟอร์นิเจอร์เดิมด้วยพลาสติกหรือกระดาษแข็ง
ปิดทับบริเวณที่ไม่ได้ใช้งานเพื่อป้องกันฝุ่นและความเสียหาย
7. ตรวจสอบหน้างานก่อนผลิตและติดตั้ง (Pre-Production & Installation Check)
ตรวจสอบความถูกต้องของแบบและพื้นที่อีกครั้งก่อนผลิตชิ้นงาน
แจ้งปัญหาหรือข้อแก้ไขหากพบความคลาดเคลื่อน
8. เริ่มผลิตชิ้นงาน (Fabrication)
ผลิตที่โรงงาน: เช่น ตู้บิวท์อิน, เฟอร์นิเจอร์定制 (Custom-made)
ผลิตในไซต์งาน: เช่น งานปูน, งานไฟฟ้า
ควบคุมคุณภาพระหว่างผลิตเพื่อให้ตรงตามสเปค
9. รายงานความคืบหน้าและเบิกจ่ายเงิน (Progress Report & Payment)
ส่งรูปภาพหรือรายงานความคืบหน้าเป็นระยะ
เบิกจ่ายเงินตามงวดที่ตกลง (เช่น 30% เมื่อเริ่มงาน, 40% หลังผลิตเสร็จ, 30% ส่งมอบงาน)
10. เข้าติดตั้งหน้างาน (Installation)
ติดตั้งชิ้นงานตามแบบ (ต้องตรงตำแหน่งและระดับ)
ตรวจสอบการใช้งานจริง (เช่น ประตูเปิด-ปิดได้สะดวก, ไฟทำงานปกติ)
11. นัดตรวจสอบข้อบกพร่อง (Defect Inspection)
ลูกค้าตรวจสอบงานและบันทึกจุดที่ต้องแก้ไข (Punch List)
ผู้รับเหมาแก้ไขข้อบกพร่องก่อนส่งมอบงานสุดท้าย
12. รับประกันผลงาน (Warranty)
รับประกันงานทั่วไป 1-2 ปี (ขึ้นอยู่กับสัญญา)
แจ้งเงื่อนไขการเรียกใช้งานรับประกัน (เช่น แจ้งล่วงหน้า 3-7 วัน)
สรุป
กระบวนการรับเหมาตกแต่งภายในหลังแบบเสร็จแล้ว เน้นการสื่อสารให้ชัดเจนในทุกขั้นตอน โดยเฉพาะ การยืนยันสเปควัสดุ, การผลิตงานให้ตรงแบบ, และการตรวจสอบก่อนส่งมอบ เพื่อป้องกันปัญหาความไม่เข้าใจระหว่างทาง